การเติบโตของวงการศิลปะและศิลปินรุ่นใหม่ใน สปป. ลาว

การเติบโตของวงการศิลปะและศิลปินรุ่นใหม่ใน สปป. ลาว

วันที่นำเข้าข้อมูล 10 ธ.ค. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 10 ธ.ค. 2567

| 214 view
“ศิลปะมีไว้เพื่อให้เป็นที่ยินดีและขัดเกลาความคิดจิตใจให้ผ่องใส” คือ คำนิยามของศิลปะที่ตรงไปตรงมาในความหมายของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ปราชญ์ศิลปินผู้วางรากฐานศิลปะไทยสมัยใหม่ และอธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยศิลปากร ศิลปะจึงเป็นสิ่งที่เป็นภาษาสากลและเป็นความหมายของการมีชีวิตโดยไม่ต้องใช้คำอธิบาย หรือ คำบรรยายความที่ยืดยาว การเติบโตของวงการศิลปะในประเทศไทยเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลง และการเติบโตของชุมชนเมืองอย่างชัดเจน ความนิยมชื่นชมคุณค่าของงานศิลปะเริ่มปรากฏเด่นชัดขึ้นเมื่อเมื่อผู้คนและสังคมแวดล้อมมีความอยู่ดีกินดี มีความมั่นคงในชีวิต และมีโอกาสได้เรียนรู้ความงามของศิลปะในแขนงต่าง ๆ เริ่มหันมาใส่ใจ พัฒนา และชื่นชมยินดีกับงานศิลปะที่ช่วยจรรโลงใจ ศิลปะจึงเป็นสิ่งที่อยู่ร่วมกับสังคม เป็นสิ่งที่สะท้อนและบ่งชี้ถึงคุณค่าของผู้คน วัฒนธรรมและสังคมอย่างเป็นเนื้อเดียวกันเช่นเดียวกับเส้นทางของวงการศิลปะใน สปป. ลาว ที่ปัจจุบันเริ่มเติบโต และผลิดอกออกผล โดยมีงานจัดแสดงผลงานของศิลปินทั้งเก่าและใหม่อย่างต่อเนื่อง ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผู้เขียนเฝ้าติดตามภายหลังการระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ การเติบโตของชุมชนเมือง และวิถีชีวิตของผู้คนแล้ว สิ่งที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและน่าจับตามองคือผลงานด้านศิลปะและพัฒนาการของศิลปินรุ่นใหม่ใน สปป. ลาว ในแต่ละปีจะมีงานจัดแสดงผลงานศิลปะและนิทรรศการทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ที่ขับเคลื่อนโดยศิลปินรุ่นเก่ารุ่นใหม่ใน สปป. ลาว สถาบันวิจิตรศิลป์แห่ง สปป. ลาว ตลอดจนผู้คนที่ตระหนักถึงคุณค่าและมีส่วนผลักดันในการเปิดพื้นที่จัดแสดงให้กับศิลปินมากขึ้น งานแสดงจิตรกรรมและประติมากรรม “เส้นทางเดียวกัน“ จัดโดยนายมิก สายลม ร่วมกับศิลปินลาวจำนวน 15 คน ทั้งศิลปินแห่งชาติและศิลปินรุ่นใหม่ ๆ ระหว่างวันที่ 22-30 พ.ย. 2567 ที่สตูดิโอมิกสายลม เป็นอีกงานที่ขับเคลื่อนวงการศิลปะและได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในบรรดาผู้รักงานศิลปะ
 
หนึ่งในนิทรรศการที่ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าร่วมและชื่นชมเป็นอย่างยิ่งคือ HOPE: Lao Contemporary Art Exhibition จัดแสดงที่ศูนย์การค้า Parkson ใจกลางนครหลวงเวียงจันทน์ ระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-17 พ.ย. 2567 ที่มีผลงานศิลปะร่วมสมัยในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งงานเขียน ภาพวาด ประติมากรรม ภาพถ่าย ภายใต้หัวข้อเรื่อง“ความหวัง” โดยภายในงานได้นำผลงานของศิลปินรุ่นใหม่ ๆ และเปิดโอกาสให้มีพื้นที่สำหรับศิลปินในการแสดงแนวคิด ขยายความ และให้คำอธิบายต่อผลงาน มีศิลปินบอกเล่าถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน และมีกิจกรรมดี ๆ เพื่อส่งเสริมชุมชนศิลปะอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในผลงานสำคัญที่สร้างความประทับใจให้กับผู้เขียนอย่างยิ่งคือ การนำผลงานศิลปะของน้อง ๆ ผู้พิการทางการได้ยิน ที่กลุ่มศิลปินลาวได้ร่วมไปเป็นครูอาสาสอนศิลปะและได้นำผลงานของน้อง ๆ ผู้พิการมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดแสดง ผลงานของน้อง ๆ สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ และความรู้สึกของเจ้าของผลงานอย่างเต็มที่ อีกหนึ่งผลงานที่สร้างความประทับใจคือ การจัดแสดงผลงานที่สร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้ชม โดยการตั้งคำถามที่เรียบง่ายแต่กระตุกใจให้ฉุกคิดว่า ‘ถ้าหากย้อนอดีตได้ คุณอยากจะกลับไปแก้ไขมันหรืออยากจะเก็บไว้’ โดยจัดแสดงเรื่องราวอดีตที่เจ็บปวด อดีตที่มีความสุข ของหลาย ๆ คนเพื่อสะท้อนถึงคำถามข้างต้นว่า ถ้าหากเราสามารถย้อนเวลากลับไปได้เราจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์หรือประสบการณ์เหล่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งย้ำเตือนให้ดำรงชีวิตด้วยสติอยู่เสมอ
นอกจากผลงานทัศนศิลป์และวิจิตรศิลป์แล้ว ปัจจุบันวงการศิลปินนักร้องของ สปป. ลาว เองก็เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดเช่นเดียวกัน หลังจากช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ศิลปินวงร็อคของ สปป. ลาว ที่เคยไปโด่งดังในไทยอย่างวง Cell ได้ปักธงสร้างผลงานเพลงเป็นที่ชื่นชอบในไทยสำเร็จแล้ว ปัจจุบัน ยังมีศิลปินหน้าใหม่ของ สปป. ลาว ที่ยังมีผลงานเพลงและสร้างกระแสนิยมในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่องในกลุ่มนักฟังเพลงชาวไทย อาทิ หนุ่มมีซอ หยุด สาละวัน SOPHANA BAY6iX LALA วง Black Eyes รวมถึงมีศิลปินรุ่นใหม่ที่ได้เซ็นสัญญาเข้าสู่ค่ายเพลงดังของไทยอย่าง Smallroomคือ น้องจัส (JUST”) ซึ่งน่าจับตามองถึงโอกาสและการเติบโตของวงการเพลงของ สปป.ลาว ที่ยังมีศักยภาพอีกมากเช่นเดียวกันกับวงการศิลปะอื่น ๆ
 
ศิลปะหาคำจำกัดความได้ยาก ไม่มีขอบเขตที่ชัดเจนเพราะสร้างสรรค์จากจินตนาการ และขึ้นอยู่กับการตีความของศิลปิน การเติบโตของชุมชนศิลปะใน สปป.ลาว เป็นภาพสะท้อนถึงการเติบโตของผู้คน สังคมและวัฒนธรรมของ สปป. ลาว ที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง จากพื้รากของขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม ผ่านกาลเวลาและประสบการณ์ของผู้คนในสังคมมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนว่า การปรับเปลี่ยนที่เกิดขึ้นได้โอบรับและเคลื่อนตัวไปกับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกภายนอกอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงประโยคอมตะของอาจารย์ศิลป์ พีระศรีว่า ‘ชีวิตแสนสั้น ศิลปะยืนยาว’ ที่ศิลปะจะยังคงอยู่และเคลื่อนตัวไปอย่างไม่สิ้นสุด
 
ข้อมูลอ้างอิงและรูปภาพ

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ