แขวงหลวงพระบางเป็นแขวงที่ตั้งอยู่บริเวณกลางภาคเหนือของ สปป. ลาว บนพื้นที่ 16,875 ตร.กม. มีประชากรทั้งหมด 451,889 คน เป็นเมืองเอกและเป็นปลายทางที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งด้านการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว ด้วยมนต์ขลังของตัวเมืองหลวงพระบาง คุณค่าทางวัฒนธรรม ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ คุณค่าทางสถาปัตยกรรม ความสมดุลระหว่างธรรมชาติ-วิถีการดำรงชีวิตของคนท้องถิ่น และสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ต่างมีอิทธิพลสร้างแรงดึงดูดที่น่าสนใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก
ในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยือนนครหลวงพระบาง มากกว่า 800,000 คน และในปี 2567 นครหลวงพระบางยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในลำดับที่ 11 จาก 50 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุดจาก Indiatimes สื่อสิ่งพิมพ์รายใหญ่อันดับต้น ๆ ของอินเดีย ที่มียอดขายหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษรายวันมากที่สุดในโลก
นครหลวงพระบางขึ้นชื่อว่า เป็นเมืองที่มีความสงบด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คนในท้องถิ่นที่ยังคงรักษา อัตลักษณ์ความสวยงามของเมืองเก่าและประเพณีดั้งเดิม ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเมืองใหญ่ ๆ ทั่วทุกมุมโลก การมาเยือนนครหลวงพระบางจึงเสมือนหยุดเวลาเพื่อรื่นรมย์กับความงดงามทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ได้ย้อนเวลากลับไปเพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนอย่างสงบ ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่จะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นฤดูการผลิตพืชผลทางการเกษตรที่สำคัญ และเป็นฤดูที่นักท่องเที่ยวใน สปป. ลาว จะเริ่มลดลง จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รักความสงบ และประสงค์จะหลีกหนีจากความวุ่นวายของตัวเมืองสู่ชนบทเพื่อพักผ่อนและชื่นชมกับธรรมชาติที่เขียวขจี และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไปพร้อม ๆ กับคนท้องถิ่น การท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับกิจกรรมเทศกาลและงานบุญประเพณีต่าง ๆ ที่งดงามของชาวหลวงพระบางด้วย
ตามปฏิทินการท่องเที่ยวลาว 2567 หลวงพระบางจะมีกิจกรรมสำคัญเริ่มจาก (1) วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2567 จะมีงานใหญ่คือ งานบุญเข้าพรรษา ที่ชาวลาวถือกันว่าเป็นงานบุญใหญ่ของปีในทางพุทธศาสนา ก่อนหน้าวันเทศกาลบุญเข้าพรรษานี้ ทุกครัวเรือนจะมาร่วมกันทำข้าวต้มห่อ (คล้ายข้าวต้มมัดห่อด้วยใบตองแล้วหนึ่งให้สุก) ขนมหวานชนิดต่าง ๆ รวมทั้งอาหารคาวหวาน เพื่อเตรียมทำบุญตามวิถีความเชื่อของชาวพุทธถวายแด่พระสงฆ์ที่วัดต่าง ๆ ใกล้บ้านของตน งานบุญนี้จะจัดขึ้นในเช้าตรู่วันเข้าพรรษาประมาณ 6 โมงเช้า โดยทุกคนในหมู่บ้านจะไปรวมตัวกันที่วัดเพื่อฟังธรรมเทศนาและร่วมตักบาตร กรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติพี่น้องมิตรสหายที่ล่วงลับไปแล้ว ก่อนจะเข้าวัดทำบุญ ธรรมเนียมสำคัญที่เคร่งครัดสำหรับผู้หญิงชาวลาวทุกคนคือ ต้องสวมผ้าซิ่น (หรือกระโปรงที่คลุมเข่า) อย่างเรียบร้อย และทั้งชาย-หญิงจะห่มสไบ หรือ ผ้าเบี่ยง ตลอดจนเสร็จพิธี ซึ่งธรรมเนียมนี้จะใช้ทั่วไปทุกครั้งที่เข้าวัดทำบุญของคนลาว อาจมียกเว้นการห่มผ้าเบี่ยงสำหรับการเข้าเยี่ยมชมสถานที่ในเวลาธรรมดา (2) วันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2567 กิจกรรมงานบุญห่อข้าวประดับดิน ซึ่งเป็นงานบุญที่สำคัญของชาวหลวงพระบางทั่วไปและมีหลักปฏิบัติคล้าย ๆ กับการเตรียมบุญเข้าพรรษาข้างต้น แต่จะเตรียมห่อกระทงข้าวประกอบด้วย เนื้อ ปลา เผือก มัน กล้วย อ้อย น้ำตาล ข้าวต้มห่อ ขนม หมากพลู ยาสูบ และอื่น ๆ จัดเป็นห่อ และเมื่อถึงเวลาประมาณช่วงเช้ามืดของวันใหม่ ชาวหลวงพระบางจะนำห่อกระทงเหล่านี้ ไปวางไว้ตามบริเวณวัด ต้นไม้ กำแพง หรือ พื้นดิน โดยมีจุดประสงค์เพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับญาติผู้ที่ล่วงลับไป และเมื่อเวลา 6 โมงเช้าจะมีพิธีตักบาตรกรวดน้ำเช่นเดียวกัน โดยความพิเศษของกิจกรรมบุญห่อข้าวประดับดินนี้ คือ จะมีการแข่งขันเรือประจำปี ซึ่งถือเป็นเทศกาลใหญ่ของหลวงพระบาง และจะมีกิจกรรมค้าขายของภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่มาออกร้านและจัดจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นอย่างคึกครื้น (3) วันอังคารที่ 17 กันยายน 2567 กิจกรรมงานบุญห่อข้าวสลาก หรือ ข้าวสาก (มีลักษณะคล้ายกับงานบุญห่อข้าวประดับดิน) แต่มีความแตกต่างในส่วนของพิธีกรรมเล็กน้อย เช่น การจับสลากเพื่อถวายเครื่องสังฆทานให้กับพระสงฆ์-สามเณร และมีวัตถุประสงค์เพื่อจะอุทิศส่วนบุญและกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว รวมถึงวิญญาณทั่วไป และจะมีพิธีไหว้เจ้าที่ เจ้าป่าเจ้าเขา ซึ่งเป็นพิธีที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก ส่วนมากจะทำกันเป็นพิธีเล็ก ๆ และส่วนตัวของครอบครัวชาวไร่ชาวนา (4) วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2567 กิจกรรมงานบุญออกพรรษา ที่ถือว่าเป็นงานบุญใหญ่อีกเทศกาลหนึ่งของ สปป. ลาว ที่มีความสำคัญด้านวัฒนธรรม ประเพณีและประวัติศาสตร์คู่กับ สปป. ลาวมาอย่างยาวนาน และมีสวยงามมาก เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวให้ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะช่วงกลางคืน เทศกาลนี้ถือได้ว่าเป็นงานบุญสุดท้ายส่งท้ายฤดูฝนของ สปป. ลาว ก่อนเป็นสัญญาณว่าจะเข้าสู่ฤดูหนาว ตามหลักการปฏิบัติตามพิธีการทางศาสนาจะคล้ายกับกิจกรรมช่วงเข้าพรรษา ทั้งวันก่อนเตรียมงาน วันงานในช่วงตักบาตรในช่วงเช้า ขณะที่ในช่วงบ่าย ชาวหลวงพระบางจะประดิษฐ์กระทง โคมไฟ และเรือไฟเพื่อเตรียมไว้ประดับตกแต่งหรือ ตั้งไว้ที่บริเวณต่าง ๆ ภายในวัด และลอยในแม่น้ำเพื่อความสวยงาม มีการแข่งขันการประดิษฐ์เรือไฟขนาดใหญ่ที่สวยงามของแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีความสวยงาม น่าสนใจและดึงดูดการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ในช่วงเทศกาลบุญออกพรรษา จะเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวนครหลวงพระบางเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ในระหว่างช่วงฤดูฝน นักท่องเที่ยวยังสามารถทำกิจกรรมและเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ของหลวงพระบางได้ตามปกติ อาทิ รับประทานอาหารเช้ายอดฮิตที่ร้านประชานิยม เดินเที่ยวชมวิวตัวเมืองหลวงพระบางและขึ้นไปนมัสการพระทาดพูสี (ภูเขาเล็กกลางเมือง) เดินเที่ยวตลาดเช้า เยี่ยมชมและซื้อของที่ตลาดกลางคืนบนถนนคนเดิน แวะพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และพระราชวังเก่า ถ่ายรูปและนมัสการวัดสำคัญในเขตตัวเมือง พักผ่อนชมความงามทางธรรมชาติที่น้ำตกกว่างสี ชมทะเลหมอกที่ภูเขาหนองเขียว ล่องเรือตามแม่น้ำไปถ้ำติ่ง แวะหมู่บ้านซ่างไห่หรือ ล่องเรือรับประทานอาหารค่ำชมพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำโขง และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวที่งดงามจากการเยี่ยมเยือนนครหลวงพระบาง ซึ่งมีบริการที่พักที่สะดวกสบายและร้านอาหารหลากหลายที่น่าสนใจจำนวนมาก สำหรับการเดินทางไปยังนครหลวงพระบาง มีสองเส้นทางที่ได้รับความนิยมคือ การนั่งรถไฟลาว-จีน เส้นทางนครหลวงเวียงจันทน์-หลวงพระบาง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายไป-กลับเริ่มต้นที่ประมาณ 1,044,000กีบ (522,000 กีบต่อเที่ยว) หรือประมาณ 1,500 บาทต่อคน สำหรับที่นั่งชั้น 1 (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในแต่ละช่วง) หรือ สามารถบินตรงเส้นทางกรุงเทพฯ-หลวงพระบาง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ค่าใช้จ่ายไป-กลับ อยู่ที่ประมาณ 4,200-10,000 บาทต่อคน ขึ้นกับช่วงโปรโมชั่น และระยะเวลาที่จอง ซึ่งจะต้องวางแผนให้ดี
https://www.tourismlaos.org/northern-provinces/louangphabang-province/
https://www.tourismlaos.org/events/list/
https://fb.watch/sQDr_pHiTr/
https://fb.watch/sQFsJdUTbP/
https://timesofindia.indiatimes.com/travel/destinations/worlds-50-most-beautiful-places-for-your-2024-travel-wishlist/photostory/106286187.cms
https://kpl.gov.la/en/detail.aspx?id=77040